ทำไมหุ้น Visa ถึงมี P/E สูงตลอดกาล?
20 มิถุนายน 2568 · อ่าน 3 นาที
ค่า P/E คืออัตราส่วนที่ใช้วัดว่า “หุ้นนั้นแพงหรือถูก” โดยการนำราคาหุ้นไปหารด้วยกำไรต่อหุ้น (Earnings per Share) หากค่า P/E สูง แปลว่านักลงทุนยอมจ่ายแพงเพื่อแลกกับกำไร 1 บาทจากบริษัทนั้น
หุ้นบางตัวจึงถูกมองว่า “แพงตลอดกาล” เพราะมีค่า P/E สูงอยู่เสมอ
หนึ่งในนั้นคือ Visa Inc. (V, VISA06) ที่ตลอดกว่า 10 ปีที่ผ่านมา มีค่า P/E มากกว่า 30 มาโดยตลอด
แม้ดูแพง แต่ราคาหุ้นกลับเติบโตอย่างต่อเนื่อง จนล่าสุดทำจุดสูงสุดใหม่ในวันที่ 11 มิถุนายน 2568 แล้วอะไรคือเหตุผลที่ทำให้หุ้นที่ดูแพงตลอดอย่าง Visa ยังคงน่าลงทุน?
โครงสร้างธุรกิจที่แข็งแกร่ง
Visa ไม่ได้ปล่อยสินเชื่อเอง สิ่งที่บริษัททำคือการเป็น “รางรถไฟ” หรือ “โครงสร้างพื้นฐาน” ที่ให้ธนาคาร ผู้ออกบัตร ร้านค้า และผู้ซื้อ มาใช้บริการผ่านระบบที่ชื่อว่า VisaNet
ทุกครั้งที่มีคนรูดบัตร กดเงิน หรือโอนเงินผ่านเครือข่าย Visa บริษัทก็จะได้ค่าธรรมเนียมทันที
รายได้ของ Visa มาจากไหนบ้าง ?
ค่าผ่านระบบหลังบ้านของ VisaNet สัดส่วน 35 %
ค่าธรรมเนียมที่ธนาคารผู้ออกบัตรจ่ายให้ Visa 32 %
รายได้จากธุรกรรมระหว่างประเทศ 26 %
บริการอื่น ๆ เช่น ระบบป้องกันการโกง หรือ Fraud Detection และบริการวิเคราะห์ข้อมูล 7 %
Visa ไม่มีต้นทุนเรื่องหนี้เสียแบบธนาคาร ไม่มีคลังสินค้า ไม่มีคนขนของ เป็นโมเดลธุรกิจที่ถูกออกแบบมาให้เบาแต่ทรงพลัง
กำไรสุทธิสูงมาก ทำให้ P/E สูงตามไปด้วย
Visa มีอัตรากำไรสุทธิ สูงถึง 52 % ในปี 2567 และมากกว่า 50 % มาแทบทุกปี
พูดง่ายๆ คือรูดบัตร 1 ดอลลาร์สหรัฐ บริษัทได้กำไรไปแล้ว 0.50 ดอลลาร์
ค่า P/E ของ Visa ย้อนหลัง (ข้อมูลโดยประมาณ)
ปี 2558 – ค่า P/E ราว 30 เท่า
ปี 2560 – พุ่งขึ้นมาที่ 32 เท่า
ปี 2562 – ขยับสูงขึ้นเป็น 35 เท่า
ปี 2563 – ทะลุระดับ 38 เท่า (ช่วงล็อคดาวน์ ตลาดให้มูลค่ากับบริษัทที่แข็งแกร่ง)
ปี 2566 – ปรับลงมาเล็กน้อยที่ 29 เท่า
มิถุนายน 2568 – ล่าสุดอยู่แถว ๆ 34 เท่า
ค่าเฉลี่ยระยะยาวอยู่ที่ 30–35 เท่า ซึ่งนับว่าสูงกว่าค่าเฉลี่ยของหุ้นในดัชนี S&P 500 ที่จะอยู่ที่ราว 18–20 เท่า และที่น่าสนใจกว่าคือ “ตลาดยอมจ่าย” เพราะ Visa สร้างผลตอบแทนได้อย่างคงที่
PEG Ratio ตัวแปรที่บอกว่า “Visa อาจไม่ได้แพงเกินไป”
ยอกจาก P/E แล้ว อีกหนึ่งตัวแปรที่น่าสนใจ คือ PEG หรือ Price/Earnings to Growth
เป็นค่า P/E ÷ อัตราการเติบโตของกำไร ที่เป็น % ต่อปี
ซึ่งบอกว่าหุ้นนี้ราคาเทียบกับ “อัตราการเติบโต” แล้วเป็นอย่างไร ใช้ดูว่าหุ้นแพงหรือถูก เมื่อเทียบกับการเติบโต
ถ้า PEG < 1 = หุ้นถูก
PEG = 1 = พอเหมาะ
PEG > 1.5 = เริ่มแพงVisa มักมี EPS Growth ราว ๆ 11–15 % ต่อปี
ทำให้ PEG อยู่แถวๆ 2 เท่า ซึ่งอาจดูแพงในสายตาคนระวัง แต่ถ้าคิดถึงความมั่นคง ความเป็นผู้นำตลาด และ moat ที่แข็งแกร่ง ก็ยังถือว่าคุ้มค่าในเชิงคุณภาพ
Visa ซื้อหุ้นคืนมหาศาล
Visa เป็นหนึ่งในบริษัทที่ “คืนเงินให้ผู้ถือหุ้น” ผ่าน การซื้อหุ้นคืน (Share Buyback) มากที่สุดบริษัทหนึ่ง โดยเฉพาะในช่วงหลังโควิด-19 ที่งบดุลแข็งแรงและ กระแสเงินสดอิสระพุ่งกระฉูดยกตัวอย่างมูลค่าการซื้อหุ้นคืนในแต่ละปี
ปี 2564 ซื้อหุ้นคืนกว่า 8,700 ล้านดอลลาร์
ปี 2566 ซื้อหุ้นคืนเพิ่มเป็น 11,600 ล้านดอลลาร์
ปี 2567 ทะลุ 25,000 ล้านดอลลาร์
Visa มักจะประกาศ การซื้อคืนชุดใหม่ในทุกๆปี และใช้เงินสดเกิน 70 % ของกระแสเงินสดอิสระ เพื่อซื้อหุ้นคืน ทำให้เป็นการลดจำนวนหุ้นในระบบ ส่งผลให้ EPS โตต่อเนื่อง แม้รายได้ไม่เปลี่ยน
แล้วความเสี่ยงของ Visa คืออะไรบ้าง ?
การดิสรัปจาก Fintech หรือสกุลเงิน Crypto ทั้งการมาของ Stablecoin, CBDC, หรือระบบ Payment แบบ P2P ที่อาจแย่ง volume การใช้จ่าย ซึ่งปัจจัยนี้ก็ทำให้ราคาหุ้น Visa ร่วงจากราคาสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2568 ลงมาราว 8 %
นอกจากนี้ยังมีความเสี่ยงในรูปของกฎระเบียบ ที่รัฐบาลหลายประเทศเริ่มเพ่งเล็งค่าธรรมเนียม Visa ว่าสูงเกินไป รวมไปถึงเศรษฐกิจโลกที่ถดถอย ทำให้คนจับจ่ายน้อยลง และส่งผลให้ Visa เติบโตช้าลง
อย่างไรก็ตาม จนถึงตอนนี้ Visa ก็ยัง “ดูแพง” และ “เติบโตได้จริง” ทุกปี และยังคงจ่ายปันผล และซื้อหุ้นคืนอย่างต่อเนื่อง
Visa คือหุ้นที่ดูแพงอยู่เสมอ
หากคุณต้องการหุ้นที่ธุรกิจเรียบง่ายแต่แข็งแกร่ง มีกำไรสุทธิสูงอย่างต่อเนื่อง เติบโตสม่ำเสมอ และคืนเงินให้ผู้ถือหุ้นผ่านการซื้อคืน
ในโลกที่เต็มไปด้วยความไม่แน่นอน Visa อาจเป็นความแน่นอนที่หลายคนยอมจ่ายแพงเพื่อแลกไว้ในพอร์ต..
ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน
ผลการดำเนินงานในอดีต/ ผลการเปรียบเทียบ ผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
ข้อมูลนี้จัดทำขึ้นโดยอาศัยแหล่งข้อมูลสาธารณะ ซึ่งพิจารณาแล้วว่ามีความน่าเชื่อถือซึ่งปรากฏขณะจัดทำ ซึ่งอาจเปลี่ยนแปลงได้ในแต่ละขณะเวลา บริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงความเห็นหรือประมาณการต่าง ๆ ที่ปรากฏโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้าราคาหุ้น Visa ณ วันที่ 18 มิถุนายน 2568
ที่มา : simplywall.st
Dime! ครบเครื่องเรื่องการเงิน แอปพลิเคชันที่ทุกคนสามารถเข้าถึงการลงทุนได้อย่างเท่าเทียม
เรารอฟังคำแนะนำจากทุกคนอยู่ ติดต่อเราได้เลยทางแอป Dime! หรือช่องทางโซเชียล Facebook และ LINE
[รู้จักเรา]
Dime! (ไดม์!) แปลว่าเหรียญ 10 เซนต์ (ประมาณ 3 บาท) สื่อถึงความตั้งใจของเราที่จะทำให้การเงินการลงทุน เป็นเรื่องที่คุณเข้าถึงได้ง่ายเหมือนกับเงิน 1 ไดม์