ถึงเพื่อน ๆ นักลงทุนทุกท่านที่เลือกใช้บริการเทรดหุ้นสหรัฐอเมริกาบนแอปพลิเคชัน Dime! เพื่อการให้บริการที่ดีที่สุด และสอดคล้องกับสภาพแวดล้อมทางการลงทุนในปัจจุบัน เรามีความจำเป็นต้องขอแจ้งเปลี่ยนแปลงค่าคอมมิชชันซื้อขายหุ้นสหรัฐอเมริกา ดังนี้ 

• เดิม เรียกเก็บค่าคอมมิชชัน 0.15% ของมูลค่าการซื้อขาย โดยไม่มีค่าคอมมิชชันขั้นต่ำ 
• ใหม่ เรียกเก็บค่าคอมมิชชัน 0.15% ของมูลค่าการซื้อขาย โดยจะเรียกเก็บค่าคอมมิชชัน 0.01 ดอลลาร์ต่อหุ้น เฉพาะหุ้นที่มีราคาต่ำกว่า 6.67 ดอลลาร์  

อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นกรณีใด Dime! จะเรียกเก็บค่าคอมมิชชันไม่ต่ำกว่า 0.01 USD สำหรับการซื้อขายแต่ละครั้ง

โดยอัตราค่าคอมมิชชันดังกล่าวจะเริ่มมีผลตั้งแต่วันที่ 18 กันยายน 2566 เป็นต้นไป 

 

ประกาศเรียกเก็บค่าคอมมิชชันใหม่นี้ จริง ๆ แล้วอาจไม่ได้กระทบกับคุณเลย ? 

เพราะการเปลี่ยนแปลงค่าคอมมิชชันดังกล่าวจะกระทบเฉพาะกรณีที่คุณซื้อขายหุ้นที่มีราคาต่ำกว่า 6.67 ดอลลาร์เท่านั้น และเพื่อให้เพื่อน ๆ เข้าใจวิธีการคิดค่าคอมมิชชันยิ่งขึ้น เรามีตัวอย่างการเรียกเก็บค่าคอมมิชชันในเงื่อนไขการซื้อขายแบบต่าง ๆ ไว้ ดังนี้   

กรณี ส่งคำสั่งแบบใช้ราคาตลาด (Market Order) 

ตัวอย่าง 1 

หุ้น A ราคาหุ้นละ 199 ดอลลาร์ คุณส่งคำสั่งซื้อแบบระบุจำนวนเงินจำนวน 2 ดอลลาร์ เท่ากับคุณซื้อหุ้น A ไม่เต็มหุ้นที่จำนวน 0.01 หุ้น
คุณจะถูกเรียกเก็บค่าคอมมิชชันที่ 0.15% ของมูลค่าซื้อขาย เท่ากับ (199 x 0.01) x 0.15%

ตัวอย่าง 2 

ตัวอย่าง 3 
ซื้อหุ้น C ที่ราคาหุ้นละ 6.66 ดอลลาร์ จำนวน 1 หุ้น
คุณจะถูกเรียกเก็บค่าคอมมิชชันที่ 0.01 ดอลลาร์ต่อหุ้น 

ตัวอย่าง 4 
ซื้อหุ้น C ที่ราคาหุ้นละ 6.66 ดอลลาร์ จำนวน 3 หุ้น
คุณจะถูกเรียกเก็บค่าคอมมิชชันที่อัตรา 0.01 ดอลลาร์ต่อหุ้น รวมเป็น 0.03 ดอลลาร์ 

ตัวอย่าง 5 
ซื้อหุ้น D ที่ราคาหุ้นละ 6.90 ดอลลาร์ จำนวน 1 หุ้น
คุณจะถูกเรียกเก็บค่าคอมมิชชันที่ 0.15% ของมูลค่าซื้อขาย เท่ากับ (6.90 x 1) x 0.15% 

กรณี ส่งคำสั่งแบบกำหนดราคาเอง (Limit Order) 
ตัวอย่าง 1 
ส่งคำสั่งซื้อหุ้น H ที่ราคาหุ้นละ 6.66 ดอลลาร์ จำนวน 1 หุ้น โดยราคาหุ้นขณะนั้นคือ 7 ดอลลาร์ และต่อมาคุณก็ได้หุ้นดังกล่าวที่ราคาหุ้นละ 6.66 ดอลลาร์
คุณจะถูกเรียกเก็บค่าคอมมิชชันที่ 0.01 ดอลลาร์ต่อหุ้น 

ตัวอย่าง 2 
ส่งคำสั่งขายหุ้น K ที่ราคาหุ้นละ 7 ดอลลาร์ จำนวน 1 หุ้น โดยราคาหุ้นขณะนั้นคือ 6.66 ดอลลาร์ และต่อมาคุณก็ขายหุ้นดังกล่าวได้สำเร็จที่ราคาหุ้นละ 7 ดอลลาร์
คุณจะถูกเรียกเก็บค่าคอมมิชชันที่ 0.15% ของมูลค่าซื้อขาย เท่ากับ (7 x 1) x 0.15% 

 

จากตัวอย่างที่กล่าวมา จะเห็นได้ว่าประกาศเปลี่ยนแปลงค่าคอมมิชชันนี้ กระทบกับนักลงทุนที่ซื้อขายหุ้นที่มีมูลค่าต่ำกว่า 6.67 ดอลลาร์ต่อหุ้นเท่านั้น และยังคลายกังวลไปได้อีกขั้น เพราะจริง ๆ แล้วหุ้นใน S&P500* ไม่มีหุ้นที่ราคาต่ำกว่า 6.67 ดอลลาร์เลย ! 

*ข้อมูล ณ วันที่ ​4 กันยายน 2566 

สำหรับค่าธรรมเนียมซื้อขายหุ้นสหรัฐอเมริกาในส่วนอื่น ๆ ยังคงเดิม ไม่เปลี่ยนแปลง ซึ่งประกอบไปด้วย 

• “รายการซื้อหรือรายการขายแรก” ของแต่ละเดือนจะไม่มีค่าคอมมิชชัน 
• ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) อีก 7% ของค่าคอมมิชชันที่ลูกค้าจ่ายจริง ไม่มีค่าธรรมเนียมแลกเงินหรือโอนเงิน 
• ไม่มีค่าธรรมเนียมยื่นแบบภาษี W-8BEN 
• ค่าธรรมเนียมตลาดหลักทรัพย์ (SEC Fee) เรียกเก็บโดยตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐอเมริกาที่อัตรา 0.00229% ของมูลค่าหุ้นที่ขาย 
• ค่าธรรมเนียมการขาย (TAF Fee) เรียกเก็บโดยตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐอเมริกาที่ 0.000119 ดอลลาร์ต่อการขายหุ้น 1 หุ้น แต่จะเรียกเก็บไม่เกิน 5.95 ดอลลาร์ต่อการขาย 1 ครั้ง  

ไม่มีค่าธรรมเนียมอื่น ๆ แอบแฝง นอกจากที่ระบุข้างต้น 

 

เราขอขอบคุณทุกท่านที่ไว้วางใจใช้บริการแอปพลิเคชัน Dime! มาโดยตลอด และหวังว่าเพื่อน ๆ จะเข้าใจถึงการปรับปรุงนโยบายดังกล่าว เพื่อความยั่งยืนของบริษัท ให้ Dime! เติบโตไปพร้อมกับนักลงทุนทุกคนครับ 

ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน    

---

Dime! ครบเครื่องเรื่องการเงิน แอปพลิเคชันที่ทุกคนสามารถเข้าถึงการลงทุนได้อย่างเท่าเทียม

เรารอฟังคำแนะนำจากทุกคนอยู่ ติดต่อเราได้เลยทางแอป Dime! หรือช่องทางโซเชียล Facebook และ LINE

[รู้จักเรา]
Dime! (ไดม์!) แปลว่าเหรียญ 10 เซนต์ (ประมาณ 3 บาท) สื่อถึงความตั้งใจของเราที่จะทำให้การเงินการลงทุน เป็นเรื่องที่คุณเข้าถึงได้ง่ายเหมือนกับเงิน 1 ไดม์