กองทุนลดหย่อนภาษี ThaiESG – SSF – RMF กับสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่ควรรู้
22 พฤษภาคม 2567 · อ่าน 2 นาที
การวางแผนการเงินเพื่ออนาคต โดยเฉพาะการเตรียมพร้อมสำหรับวัยเกษียณอายุ เป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับทุกคน และกองทุนลดหย่อนภาษี เป็นเครื่องมือทางการเงินที่ช่วยให้เราเก็บออมเงินเพื่อการเกษียณได้อย่างมีวินัย และยังได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่น่าสนใจด้วย
ในบทความนี้ เราจะมาแนะนำ 3 กองทุนลดหย่อนภาษียอดนิยม ได้แก่ กองทุน SSF, RMF และ ThaiESG เหมือนหรือต่างกันอย่างไร ไปดูกันเลย
1. กองทุน SSF (Super Savings Fund)
คือ กองทุนรวมเพื่อส่งเสริมการออมระยะยาว สามารถนำจำนวนเงินที่ซื้อกองทุน SSF มาหักลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาได้ เริ่มต้นตั้งแต่ปี 2563 เป็นต้นไป โดยจะลดหย่อนแบบปีต่อปี ซื้อปีไหน ก็ลดหย่อนปีนั้น ในช่วงระยะเวลาปี 2563-2567
นโยบายการลงทุน
ลงทุนในสินทรัพย์ทุกประเภท ทั้งหุ้นไทย หุ้นต่างประเทศ ตราสารหนี้ กองทุนทองคำ กองทุนอสังหาริมทรัพย์ ฯลฯ
สิทธิประโยชน์ทางภาษี
เงินลงทุน SSF สามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ไม่เกิน 30% ของเงินได้ และไม่เกิน 200,000 บาท โดยเมื่อรวมกับกองทุนการออมเพื่อการเกษียณอายุอื่น ๆ (เช่น กองทุน RMF กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ กองทุนสงเคราะห์ตามกฎหมายว่าด้วยโรงเรียนเอกชน กองทุนการออมแห่งชาติ หรือเบี้ยประกันภัยสำหรับการประกันชีวิตแบบบำนาญ) ต้องไม่เกิน 500,000 บาท
เงื่อนไข
- ไม่กำหนดขั้นตํ่าในการซื้อต่อปี และไม่บังคับซื้อต่อเนื่อง
- ต้องถือหน่วยลงทุนอย่างน้อย 10 ปีนับจากวันที่ซื้อ
- ให้ประโยชน์ลดหย่อนภาษีเพียง 5 ปี (2563-2567) โดยหลังจากนั้นกระทรวงการคลังจะพิจารณาอีกที
2. กองทุน RMF (Retirement Mutual Fund)
คือ กองทุนเพื่อการเลี้ยงชีพ มีวัตถุประสงค์ให้คนไทยออมเงินเพื่อการเกษียณ
นโยบายการลงทุน
ลงทุนในสินทรัพย์ทุกประเภท ทั้งหุ้นไทย หุ้นต่างประเทศ ตราสารหนี้ กองทุนทองคำ กองทุนอสังหาริมทรัพย์ ฯลฯ
สิทธิประโยชน์ทางภาษี
เงินลงทุน RMF สามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ไม่เกิน 30% ของเงินได้ เมื่อรวมกับสิทธิลดหย่อนภาษีเพื่อการเกษียณอื่น ๆ เช่น กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ กองทุน SSF กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ กองทุนสงเคราะห์ตามกฎหมายว่าด้วยโรงเรียนเอกชน กองทุนการออมแห่งชาติ หรือเบี้ยประกันภัยสำหรับการประกันชีวิตแบบบำนาญ) ต้องไม่เกิน 500,000 บาท
เงื่อนไข
- ไม่กำหนดเงินลงทุนขั้นต่ำต่อปี
- ต้องลงทุนอย่างน้อย 5 ปีต่อเนื่อง และต้องมีอายุครบ 55 ปี ถึงจะสามารถขายคืนหน่วยลงทุนมาใช้ได้
- ต้องลงทุนอย่างต่อเนื่อง หรืออย่างน้อยที่สุดคือปีเว้นปี
จะเกิดอะไรขึ้นหากผิดเงื่อนไข RMF
- กรณีลงทุนไม่ถึง 5 ปี กำไรที่ได้จากการขายคืนหน่วยลงทุนต้องถูกนำไปคำนวณภาษี และต้องคืนภาษีที่ได้รับการลดหย่อนย้อนหลังทุกปี
- กรณีลงทุนครบ 5 ปี แต่ขายก่อนอายุ 55 ปี ต้องคืนภาษีที่ได้รับการลดหย่อน 5 ปีย้อนหลัง (ไม่ต้องนำกำไรจากการขายคืนไปรวมในการคำนวณภาษี)
- กรณีซื้อเกินเกณฑ์ที่กำหนด: กำไรที่ได้จากการขายคืนหน่วยลงทุนต้องถูกนำไปคำนวณภาษี
- หากจ่ายภาษีคืนล่าช้ากว่ากำหนด: จะต้องจ่ายค่าปรับเพิ่มอีก 1.5% ต่อเดือน โดยคิดตั้งแต่เดือนเมษายนปีถัดจากปีที่ขายผิดเงื่อนไข
3. กองทุน ThaiESG (Thailand ESG Fund)
คือ กองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน มีวัตถุประสงค์เพื่อให้เกิดการออมเงินในระยะยาวอย่างยั่งยืน
นโยบายการลงทุน
เน้นลงทุนในสินทรัพย์ เช่น หุ้นหรือตราสารหนี้ ที่มีการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมหรือความยั่งยืน และต้องได้รับการรับรอง SET ESG Ratings ของตลาดหลักทรัพย์ฯ ไม่น้อยกว่า 80% ของทรัพย์สินสุทธิ(NAV)
สิทธิประโยชน์ทางภาษี
เงินลงทุน ThaiESG สามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ไม่เกิน 30% ของเงินได้ และไม่เกิน 100,000 บาท โดยที่วงเงินที่ถูกเพิ่มขึ้นมานี้จะไม่นับรวมกับการลงทุนในกองทุน SSF และ RMF ที่กำหนดให้ลงทุนรวมกันไม่เกิน 5 แสนบาท
เงื่อนไข
- ไม่กำหนดเงินลงทุนขั้นต่ำต่อปี
- ต้องถือครอง 8 ปีขึ้นไป นับจากวันที่ลงทุน โดยไม่จำเป็นต้องลงทุนต่อเนื่องทุกปี สามารถเลือกซื้อได้เฉพาะปีที่ต้องการลดหย่อนภาษี
ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจ
ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ทางภาษี ที่ระบุไว้ในคู่มือการลงทุนในกองทุนรวมดังกล่าวด้วย
ติดต่อขอรับข้อมูลเพิ่มเติมหรือหนังสือชี้ชวนได้ที่บริษัท
ที่มา: ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ข้อมูล ณ วันที่ 27 มี.ค.67
https://www.setinvestnow.com/th/knowledge/article/436-tsi-the-attractiveness-of-thai-esg-funds
https://www.setinvestnow.com/th/knowledge/article/226-tsi-what-ssf-rmf-are-good-to-invest
Dime! ครบเครื่องเรื่องการเงิน แอปพลิเคชันที่ทุกคนสามารถเข้าถึงการลงทุนได้อย่างเท่าเทียม
เรารอฟังคำแนะนำจากทุกคนอยู่ ติดต่อเราได้เลยทางแอป Dime! หรือช่องทางโซเชียล Facebook และ LINE
[รู้จักเรา]
Dime! (ไดม์!) แปลว่าเหรียญ 10 เซนต์ (ประมาณ 3 บาท) สื่อถึงความตั้งใจของเราที่จะทำให้การเงินการลงทุน เป็นเรื่องที่คุณเข้าถึงได้ง่ายเหมือนกับเงิน 1 ไดม์