วิธีจดบันทึกสินทรัพย์ง่าย ๆ ด้วย Asset Tracker
18 เมษายน 2565 · อ่าน 5 นาที
การจดบันทึกสินทรัพย์ เป็นหนึ่งในวิธีที่ทำให้เราเห็นภาพรวมทางการเงิน เปรียบเหมือนการตรวจสุขภาพทางการเงิน ที่คุณหมอจะบอกได้ทันทีว่า คุณมีสุขภาพโดยรวมเป็นอย่างไร มีปัญหาในด้านไหนบ้าง
แต่การจดบันทึกสินทรัพย์ โดยเฉพาะเรื่องการลงทุน เป็นสิ่งที่วุ่นวายและทำได้ยาก เพราะเราต้องคอยอัปเดตราคาสินทรัพย์ของตนเองอยู่เสมอ ทำให้ต้องใช้เวลาค่อนข้างมาก แต่พอกันทีกับการจดบันทึกแบบเดิม ๆ เพราะ Asset Tracker ช่วยคุณได้
บทความนี้เลยจะมาบอกว่า ทำไมถึงต้องใช้ Asset Tracker และวิธีการใช้งานต้องทำยังไง โดยเราจะมาสอนแบบจับมือทำ รับรองว่าอ่านจบแล้ว ทำตามได้แน่นอน
Key Points :
- ช่วยให้เห็นภาพรวมการลงทุนแบบเรียลไทม์
- บันทึกสินทรัพย์ได้หลากหลาย ทั้ง หุ้นสหรัฐฯ กองทุนรวม และสกุลเงินต่างประเทศ ครบ จบ ในที่เดียว
- ใช้งานง่าย ไม่ต้องคอยอัปเดตมูลค่าการลงทุนใน Excel ทีละกองทุน หรือทีละหุ้น
- จะใช้บันทึกสินทรัพย์การลงทุนของจริง หรือจะใช้จำลองการลงทุนก่อนก็ได้
- เหมาะกับนักลงทุนทุกประเภท
- ไม่มีค่าใช้จ่าย
Asset Tracker ช่วยให้คุณเห็นภาพรวมการลงทุน รู้ทันทีว่าสินทรัพย์ไหนกำลังสร้างผลตอบแทนให้เรา สินทรัพย์ไหนบ้างที่เริ่มน่าเป็นห่วง และเรามีสัดส่วนการลงทุนในสินทรัพย์ไหนมากเป็นพิเศษหรือไม่
ทีนี้ เราไปดูวิธีการใช้งาน Asset Tracker กัน
ขั้นที่ 1 : เลือกประเภทสินทรัพย์
เริ่มจากเข้าเมนู Asset Tracker เมนูที่ 2 จากแถบเมนูด้านล่างของแอป แล้วกด "เริ่มต้นบันทึก (Start Tracking)"
ในตอนนี้ สินทรัพย์ที่จดบันทึกได้ คือ เงินสด กองทุนรวม และหุ้นสหรัฐอเมริกา
ขั้นที่ 2 : ค้นหาและเลือกสินทรัพย์ที่ต้องการ
แบ่งออกเป็น 2 กรณี ดังนี้
กรณีแรก : กองทุนรวม และหุ้นสหรัฐอเมริกา
ค้นหาชื่อกองทุนรวมหรือหุ้นสหรัฐอเมริกาที่ต้องการจดบันทึก กดเลือกสินทรัพย์ที่ต้องการ ระบบจะแสดงหน้าจอให้คุณสามารถบันทึกรายละเอียดต่าง ๆ จากนั้นกด "บันทึก" (Record)
กรณีสอง : เงินสด
กดเลือก “สร้างรายการใหม่” (Create New Item) เพื่อสร้างบัญชีเงินสดขึ้นมา โดยสามารถเลือกสกุลเงินได้สูงสุดถึง 10 สกุล และยังตั้งชื่อบัญชีย่อย ๆ ได้ด้วย เช่น ท่องเที่ยว ค่าเทอมลูก และเงินเดือนสามี เป็นต้น จากนั้นกดที่ "สร้าง" (Create)
บันทึกข้อมูลรายการ โดยเลือกวันที่ ระบุจำนวนเงิน แล้วกดปุ่ม "บันทึก" (Record) ก็จะเพิ่มรายการเสร็จเรียบร้อย
ขั้นที่ 3 : บันทึกรายการซื้อขายสินทรัพย์
วิธีบันทึกรายการซื้อ-ขายกองทุนรวม แบ่งออกเป็น 2 แบบกว้าง ๆ คือ
- บันทึกทีละรายการ (สำหรับมือใหม่ที่เริ่มต้นบันทึก)
เลือกวันที่คำสั่งมีผล (วันที่ผู้ลงทุนได้รับหน่วยลงทุน) ระบบจะดึงข้อมูลราคาหน่วยลงทุน (NAV ที่รวมค่าธรรมเนียมแล้ว) มาให้ทันที หลังจากนั้นจึงใส่จำนวนเงินลงทุน สุดท้ายระบบจะคิดจำนวนหน่วยลงทุนให้โดยอัตโนมัติ
- มัดรวมเป็นก้อน (สำหรับผู้ลงทุนแบบ DCA หรือซื้อขายมาแล้วหลายครั้ง)
สิ่งที่ต้องใส่ ได้แก่ จำนวนเงินลงทุนตั้งต้น และจำนวนหน่วยลงทุนทั้งหมดในปัจจุบัน จากนั้นระบบจะคำนวณราคาหน่วยลงทุนเฉลี่ย (NAV ต้นทุนเฉลี่ย) ให้อัตโนมัติ ซึ่งจะรวมค่าธรรมเนียมไว้ให้แล้ว
วิธีบันทึกการซื้อขายหุ้น
ผู้บันทึกต้องใส่จำนวนเงินลงทุนและจำนวนหุ้นด้วยตัวเอง จากนั้นระบบจะคำนวณราคาหุ้นต้นทุนที่รวมค่าธรรมเนียมไว้ให้แล้ว
*กรณีพิเศษ หากเราได้รับสินทรัพย์จาก ของขวัญ โปรโมชัน หรือมรดก ให้ทำเครื่องหมาย ✅ ที่กล่องด้านล่างด้วย
ขั้นที่ 4 : ดูรายการซื้อขาย และผลการลงทุน
ในหน้านี้คือสรุปผลการลงทุนสินทรัพย์รายตัว ที่รวบรวมรายการซื้อขายของเราทั้งหมดไว้ในที่เดียว โดยมีข้อมูลสำคัญดังนี้
- มูลค่าเงินลงทุนรวม
- ผลกำไรหรือขาดทุน
- ราคาหน่วยลงทุน (NAV) ที่อัปเดตทุกสิ้นวัน
- ราคาหุ้นสหรัฐฯ ที่เป็นข้อมูลเรียลไทม์
- จำนวนหน่วยลงทุนคงเหลือ
- ราคาต้นทุนเฉลี่ยต่อหน่วยลงทุน
- ต้นทุนรวม (หรือก็คือ จำนวนเงินทั้งหมดที่ลงทุน)
นอกจากนี้ยังดูได้อีกว่า เราเคยทำรายการซื้อขายตอนไหน เป็นมูลค่าเท่าไหร่ โดยดูย้อนหลังได้ไม่จำกัด
ขั้นที่ 5 : ดูภาพรวมการลงทุนทั้งหมดของคุณได้ที่เมนู “สินทรัพย์” (My Assets)”
ยังสงสัยเกี่ยวกับ Asset Tracker ?
หาคำตอบได้เลยที่นี่
หากคุณมีปัญหาในการใช้งาน หรือต้องการเสนอแนะ สามารถติดต่อฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์ โดยส่งข้อความมาหาเราได้ทาง Facebook หรือ LINE
พวกเรายินดีให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีที่สุดในการใช้แอป Dime! ของทุกคน