4 เหตุผล ทำไมคุณควรมีทองคำไว้ในพอร์ต ?
28 พฤศจิกายน 2566 · อ่าน 3 นาที
‘ทองคำ’ สินทรัพย์ทรงคุณค่าที่ได้รับความนิยมมาอย่างยาวนาน หนึ่งในสกุลเงินที่เก่าแก่ที่สุด มีคุณสมบัติมากมายที่เหมาะในการลงทุน ด้วยแนวคิดแบบตรงไปตรงมา ศึกษาทำความเข้าใจได้ง่าย เราจึงต่างผูกพันกับทองคำมาตลอดทุกช่วงชีวิต และในบทความนี้ เราจะพาไปรู้จัก 4 เหตุผล จากนักลงทุนและคนดังระดับโลกที่จะบอกว่าทำไมคุณจึงควรมีทองคำติดไว้ในพอร์ตลงทุนของคุณ
1. ทองคำ คือ สินทรัพย์ปลอดภัยแม้เจอวิกฤติการเงิน
รู้หรือไม่ว่า 20 ปีที่ผ่านมา โลกเราเผชิญวิกฤติเศรษฐกิจมาแล้วกี่ครั้ง แล้วแต่ละครั้งตลาดหุ้นผันผวนแค่ไหน แต่ท่ามกลางวิกฤติเหล่านั้น มีอยู่หนึ่งสินทรัพย์ที่ฉุดพอร์ตนักลงทุนให้ฟื้นคืนกลับมาได้อยู่หลายครั้ง นั่นก็คือ ทองคำ
ยกตัวอย่างวิกฤติครั้งสำคัญ เช่น
- ปี 2000 กับวิกฤติเหตุการณ์ฟองสบู่ Dot-com ที่ทำให้บริษัทเทคในสหรัฐอเมริกาล้มละลายไปหลายพันบริษัท ตลาดหุ้น NASDAQ ตกหนักถึง -78% แต่มูลค่าทองคำยังโตเกือบ +4%
- ปี 2008 กับวิกฤติสินเชื่อซับไพรม์ หรือ Subprime Crisis ที่นับเป็นวิกฤติเศรษฐกิจที่รุนแรงที่สุดในรอบหลายร้อยปี่ ทำตลาดหุ้นทั่วโลกร่วงกว่า -50% ขณะที่ทองคำกลับเป็นที่ต้องการมากขึ้นโดยโตถึง +38%
- ปี 2020 กับวิกฤติโควิด ทองคำก็ยังคงเป็นหลุมหลบภัยที่ดีของนักลงทุน แม้ตลาดหุ้นจะติดลบตลอดช่วงระยะเวลาดังกล่าว แต่ทองคำก็ยังคงประคองมูลค่าในแดนบวกได้
นี่จึงเป็นเหตุผลแรกที่คุณควรสะสมทองคำไว้ในพอร์ตลงทุน เพราะทองคำคือ สินทรัพย์ที่ปลอดภัย หรือ Safe Haven Asset นั่นเอง
*ทองคำอาจจะไม่สามารถเอาชนะทุกวิกฤติการเงินได้ แต่จากสถิติ 20 ปีล่าสุด ทองคำก็นับเป็นสินทรัพย์ที่ช่วยกระจายความเสี่ยงในพอร์ตลงทุนได้เป็นอย่างดี
2. ทองคำ ใช้ป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เพราะราคาทองคำมีแนวโน้วปรับตัวไปในทิศทางเดียวกับอัตราเงินเฟ้อ ถ้าอัตราเงินเฟ้อเพิ่มสูง เงินลงทุนก็จะไหลมาเก็งกำไรในทองคำมากขึ้น เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากการลดลงของมูลค่าเงินจากเงินเฟ้อที่สูงขึ้น เมื่อความต้องการทองคำมากขึ้น ราคาทองก็จะปรับตัวสูงขึ้น
ในมิติของค่าเงิน ยกตัวอย่างสถานการณ์ในประเทศสหรัฐอเมริกา กรณีที่เกิดภาวะเงินเฟ้อในประเทศ จะส่งผลให้กำลังซื้อของเงิน USD ลดลง ทำให้ค่าเงิน USD อ่อนลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่น นักลงทุนจึงต้องป้องกันความเสี่ยงของมูลค่าเงินที่ลดลง ด้วยการหันมาเก็งกำไรในทองคำ ทำให้ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้น
นี่จึงเป็นอีกหนึ่งเหตุผลว่าทำไมทองคำจึงเป็นตัวเลือกลำดับแรก ๆ ในการใช้เป็นเครื่องมือป้องกันเงินเฟ้อได้อย่างมีประสิทธิภาพ
3. ในระยะยาว ไม่มีอะไรรักษามูลค่าได้ดีเท่าทอง
คำกล่าวข้างต้น สะท้อนถึงความเชื่อในคุณค่าของทองคำที่ถูกวางรากฐานมาตั้งแต่ยุคโบราณที่มีมานานหลายพันปี และด้วยเหตุผลดังต่อไปนี้ทำให้ทองคำกลายเป็นราชาแห่งโลหะที่โดดเด่นและมีมูลค่าสูงอย่างต่อเนื่อง
- คงทน ทรงคุณค่า และงดงาม
ทองคำมีความคงทนสูง ไม่สึกกร่อนไปตามกาลเวลา ไม่ขึ้นสนิม ไม่เป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อม ทั้งยังมีสีสันสวยงามอย่างสม่ำเสมอ
- หายาก ผลิตลำบาก
ทองคำ คือ โลหะมีค่าที่มีปริมาณจำกัด เนื่องจากเป็นแร่ที่หายาก การสำรวจ ขุดเจาะ ต้องใช้ต้นทุนและเทคโนโลยีที่สูง ประกอบกับกฎเกณฑ์ในการประกอบธุรกิจเหมืองทองที่ยากลำบากทำให้จำนวนผลผลิตทองคำลดลงทั่วโลก
- ความต้องการเพิ่มขึ้น
การเติบโตของประเทศชั้นนำในเอเชีย กระตุ้นให้เกิดความต้องการทองคำที่สูงขึ้น นำโดยจีนและอินเดียที่ทองคำยังคงเป็นส่วนสำคัญของวัฒนธรรม เศรษฐกิจที่ขยายตัว ความมั่งคั่งที่เพิ่มขึ้น ล้วนผลักดันให้มีการบริโภคทองคำอย่างกว้างขวาง
- ใช้งานได้หลายด้าน
ทองคำไม่ได้ทำหน้าที่เป็นเพียงสินทรัพย์เพื่อสะสมความมั่งคั่งเท่านั้น แต่ยังถูกใช้ในหลายอุตสาหกรรมด้วย เช่น อุตสาหกรรมเครื่องประดับ อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น
4. สภาพคล่องสูง และเลือกลงทุนได้หลากหลาย
ทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล สามารถซื้อขายแลกเปลี่ยนได้ทุกประเทศทั่วโลก ทุกคนต่างให้คุณค่าและสำคัญในทองคำอย่างเท่าเทียมกัน ในระดับประเทศเราจึงเห็นประเทศต่าง ๆ ซื้อขายทองคำในปริมาณสูงขึ้นทุกปี หรือหากดูในระดับครัวเรือน หลายคนก็คงคุ้นเคยกับบรรยากาศการซื้อขายทองคำตามร้านทองที่ล้วนซื้อง่ายและขายคล่อง พร้อมเปลี่ยนสภาพจากทองคำเป็นเงินสดได้ตลอดเวลา
และหากเรากำลังพิจารณาลงทุนในทองคำ ในปัจจุบันก็มีรูปแบบการลงทุนทองคำที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นกองทุนรวมทองคำที่บริหารจัดการโดยบริษัทจัดการกองทุนในประเทศไทย หรือกองทุน ETF ระดับโลกที่มีให้เลือกลงทุนได้มากมาย
และล่าสุดกับบริการซื้อขาย ‘ทองคำแท่ง’ บนแอปพลิเคชัน Dime! อีกหนึ่งทางเลือกสำหรับนักลงทุนที่ต้องการถือครองทองคำในระยะยาว สามารถเลือกฝากทองผ่านแอปพลิเคชัน Dime! หรือจะแลกเป็นทองคำจริงไปเก็บรักษาเองก็ได้เช่นกัน
บทสรุป
ทองคำเป็นสินทรัพย์ที่นักลงทุนนิยมใช้กระจายความเสี่ยงให้พอร์ตลงทุน ด้วยจุดเด่นที่มูลค่าทองคำมีแนวโน้มจะเคลื่อนไหวในทิศทางตรงข้ามกับสินทรัพย์อื่น ๆ และแม้ราคาทองคำจะมีความผันผวนในระยะสั้น แต่ก็ยังคงรักษามูลค่าได้ในระยะยาว
โดยสภาทองคำโลกแนะนำให้เราแบ่งสัดส่วนพอร์ตลงทุนประมาณ 5 – 10% สำหรับทองคำ เพื่อช่วยลดความผันผวนของพอร์ต อย่างไรก็ตาม สัดส่วนดังกล่าวสามารถปรับได้ตามความสามารถในการรับความเสี่ยง และเป้าหมายทางการเงินของตัวเอง
ผ้ลูงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน
Dime! ครบเครื่องเรื่องการเงิน แอปพลิเคชันที่ทุกคนสามารถเข้าถึงการลงทุนได้อย่างเท่าเทียม
เรารอฟังคำแนะนำจากทุกคนอยู่ ติดต่อเราได้เลยทางแอป Dime! หรือช่องทางโซเชียล Facebook และ LINE
[รู้จักเรา]
Dime! (ไดม์!) แปลว่าเหรียญ 10 เซนต์ (ประมาณ 3 บาท) สื่อถึงความตั้งใจของเราที่จะทำให้การเงินการลงทุน เป็นเรื่องที่คุณเข้าถึงได้ง่ายเหมือนกับเงิน 1 ไดม์