ส่องผลงานหุ้นรายประเทศย้อนหลัง สหรัฐฯ ไม่ใช่ที่ 1 เสมอไป ! อาจต้องเอาตัวรอดด้วยกองทุนรวม
30 พฤษภาคม 2568 · อ่าน 5 นาที
เชื่อว่านักลงทุนหลายคน โดยเฉพาะมือใหม่ มักจะได้ยินกิตติศัพท์ความยิ่งใหญ่ของตลาดหุ้นสหรัฐฯ ดินแดนแห่งนวัตกรรมและบริษัทยักษ์ใหญ่ จนอาจเผลอคิดไปว่าแค่ลงทุนในอเมริกา ก็การันตีความสำเร็จแล้ว
แต่ถ้าเราลองกางตารางผลตอบแทนตลาดหุ้นโลกย้อนหลัง 9 ปี ออกมาส่องดูดี ๆ เราอาจต้องประหลาดใจ ! เพราะภาพที่เห็นมันฟ้องว่า... มหาอำนาจอย่างสหรัฐฯ ก็ไม่ได้เข้าเส้นชัยเป็นที่ 1 เสมอไป
บัลลังก์ที่สั่นคลอน..เมื่อสหรัฐฯ ไม่ใช่แชมป์ ลองย้อนดูเส้นทางหลายปีที่ผ่านมาสิครับ
- บางปี สหรัฐฯ อาจจะวิ่งนำแบบไม่เห็นฝุ่นจริง ๆ ด้วยพลังของหุ้นเทคโนโลยี
- แต่บางปี ม้ามืดอย่างเวียดนาม ฮ่องกงก็เร่งสปีดแซงโค้งด้วยเศรษฐกิจที่เติบโตแบบก้าวกระโดด
- หรือบางปี ดาวเด่นอาจจะเป็นญี่ปุ่น ที่ฟื้นคืนชีพกลับมาอย่างสง่างาม
- แม้แต่ยุโรปหรือตลาดเกิดใหม่อื่น ๆ ก็เคยมีปีที่ทำผลงานได้ดีกว่าสหรัฐฯ มาแล้ว
ตารางนี้คือหลักฐานชั้นดีที่บอกว่า “ไม่มีใครเป็นแชมป์ตลอดกาล” การทุ่มเงินทั้งหมดไปที่เต็งหนึ่งอย่างสหรัฐฯ เพียงแห่งเดียว อาจหมายถึงการพลาดโอกาสทองจากตลาดอื่น และที่สำคัญกว่านั้น คือการแบกรับความเสี่ยงไว้เต็ม ๆ หากปีนั้นไม่ใช่ปีของอเมริกา
วิ่งตามแชมป์ = เหนื่อย + เสี่ยง ?
ลองนึกภาพว่าถ้าคุณพยายามวิ่งไล่ตามแชมป์ในแต่ละปี คุณจะต้อง..
- สับเปลี่ยนพอร์ตวุ่นวายไปหมด (เสียทั้งค่าธรรมเนียม เสียทั้งเวลา)
- พยายามคาดเดาว่าปีหน้าใครจะมาแรงซึ่งยากยิ่งกว่างมเข็มในมหาสมุทร
- อาจติดดอย ถ้าดันกระโดดเข้าไปตอนที่ตลาดนั้นพีคสุด ๆ แล้วร่วงลงมา
การวิ่งไล่ตามแบบนี้ ไม่เพียงแต่เหนื่อย แต่ยังเสี่ยงสูง แล้วอะไรคือ วิธีรอดในสนามแข่งระยะยาว 10 ปีนี้ ?
คำตอบไม่ใช่การหาผู้ชนะ แต่คือการสร้างทีมที่แข็งแกร่งและสมดุลผ่านการกระจายการลงทุน (Diversification) และเครื่องมือที่ง่ายและทรงพลังที่สุดในการทำเช่นนี้ ก็คือ “กองทุนรวม” นั่นเอง
เพราะกองทุนรวมช่วยให้คุณไม่ต้องเดาตลาด เนื่องจากกองทุนรวมส่วนใหญ่กระจายการลงทุนในหุ้นหลายตัว หลายอุตสาหกรรม หรือแม้แต่หลายประเทศอยู่แล้ว ไม่ต้องใช้เงินเยอะ ก็สามารถเป็นเจ้าของหุ้นระดับโลกได้ ที่สำคัญคือไม่ต้องเฝ้าจอทั้งวันเพราะมีผู้จัดการกองทุนมืออาชีพคอยดูแลให้
หากคุณยังนึกภาพไม่ออกว่าจะสร้างพอร์ตกองทุนรวมอย่างไร ขอสมมติตัวอย่างการกระจายการลงทุนให้เห็นภาพดังนี้ครับ
ถ้าเราสร้างทีมกองทุนรวม ให้เสมือนการจัดตัวนักฟุตบอลลงแข่ง เราจะจัดทัพได้เป็น
กองหน้าตัวหลัก (สหรัฐฯ/ตลาดโลก) เพราะยังไงก็ต้องมี ด้วยความที่เป็นตลาดใหญ่และมั่นคง
กองทุนจาก Dime! Pick ที่แนะนำโดย KKPS เช่น KKP NDQ100-UH, K-US500x-A(A), KKP US500-UH
ปีกความเร็วสูง (ตลาดเกิดใหม่/เฉพาะทาง) เพื่อเพิ่มโอกาสโตแรง แต่ต้องยอมรับความผันผวน
กองทุนจาก Dime! Pick ที่แนะนำโดย KKPS เช่น B-BHARATA, K-CHINA-A(D)
กองกลางมากประสบการณ์ (ญี่ปุ่น/ยุโรป) เพื่อสร้างความสมดุลและโอกาสจากตลาดพัฒนาแล้วอื่น ๆ
กองทุนจาก Dime! Pick ที่แนะนำโดย KKPS เช่น ES-EG-A, K-EUX, K-JPX-A(A), SCBJAPAN(A)
กองหลังเจ้าบ้าน (ไทย) ลดความเสี่ยงค่าเงิน และเกาะไปกับการเติบโตในบ้าน กองทุนจาก Dime! Pick ที่แนะนำโดย KKPS เช่น KT-SET50-A, KKP SM CAP, KT-HiDiv-D
ไอเดียข้างต้นเป็นเพียงตัวอย่างเท่านั้น ทั้งนี้ เรายังเน้นย้ำถึงวัตถุประสงค์หลักของการลงทุน คือ มองเกมยาว วางแผนให้อยู่รอด ไม่ใช่แค่ลุ้นให้ได้กำไร
ตารางหุ้นนี้ สอนเราว่าความไม่แน่นอนคือสิ่งที่แน่นอนที่สุดในสนามลงทุน แม้แต่ยักษ์ใหญ่อย่างสหรัฐฯ ก็มีวันที่แผ่วได้ การมองเกมยาว และรู้จักสร้างเกราะป้องกัน ด้วยการกระจายการลงทุนผ่านกองทุนรวม จึงเป็นกลยุทธ์สำคัญที่จะพาเรารอดจากความผันผวน และค่อย ๆ เดินทางสู่เป้าหมายทางการเงินได้อย่างมั่นคง โดยไม่ต้องเหนื่อยวิ่งไล่ตามแชมป์ที่เปลี่ยนหน้าไปทุกปีครับ
ข้อมูลนี้จัดทำขึ้นเพื่อเป็นการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น โดยไม่ถือว่าเป็นการให้คำแนะนำด้านการลงทุน บทวิเคราะห์ หรือการเสนอขายแต่อย่างใด ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน ติดต่อขอรับข้อมูลเพิ่มเติมหรือหนังสือชี้ชวนได้ที่บริษัท
Dime! ครบเครื่องเรื่องการเงิน แอปพลิเคชันที่ทุกคนสามารถเข้าถึงการลงทุนได้อย่างเท่าเทียม
เรารอฟังคำแนะนำจากทุกคนอยู่ ติดต่อเราได้เลยทางแอป Dime! หรือช่องทางโซเชียล Facebook และ LINE
[รู้จักเรา]
Dime! (ไดม์!) แปลว่าเหรียญ 10 เซนต์ (ประมาณ 3 บาท) สื่อถึงความตั้งใจของเราที่จะทำให้การเงินการลงทุน เป็นเรื่องที่คุณเข้าถึงได้ง่ายเหมือนกับเงิน 1 ไดม์