รู้จักหุ้น Oracle (ORCL) หุ้นคลาวด์ราคา All Time High
3 กรกฎาคม 2568 · อ่าน 3 นาที
ราคาของหุ้น Oracle (ORCL) บริษัทด้านซอฟต์แวร์และคลาวด์ ได้พุ่งขึ้นแตะ All Time High ไปเมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 2568 ที่ราคา 229.98 ดอลลาร์สหรัฐ ดันมูลค่าบริษัททะลุ 645,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
หากนับจากวันที่บริษัทได้จดทะเบียนในตลาดหุ้นนิวยอร์กเมื่อปี 2529 ขณะนี้มูลค่าของบริษัท Oracle ก็ได้เติบโตมากว่า 3,280 เท่าตัวแล้ว
แล้ว Oracle ทำอะไร ?
Oracle เป็นบริษัทเทคโนโลยีที่ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 2520 โดยคุณ Larry Ellison และทีมผู้ร่วมก่อตั้ง จุดเด่นคือ ระบบฐานข้อมูลสำหรับองค์กรที่ใช้กันทั่วโลก ตั้งแต่ภาครัฐบาล ธนาคาร ไปจนถึงมหาวิทยาลัย
ต่อมาบริษัทได้พัฒนาไปสู่ธุรกิจคลาวด์ และ AI infrastructure ที่แม้จะไม่ได้มีชื่อเสียงเท่า AWS หรือ Microsoft Azure แต่ก็สามารถเจาะตลาดองค์กรได้เฉพาะทางและมีกำไรสม่ำเสมอ
ผลิตภัณฑ์หลักในอดีต
Oracle Database Middleware หรือ ซอฟต์แวร์ตัวกลางที่เชื่อมให้ทั้งหมดทำงานร่วมกันได้
ระบบจัดการทรัพยากรองค์กร หรือ ERP และระบบจัดการข้อมูลลูกค้า หรือ CRM ระบบจัดการข้อมูลสำหรับองค์กรขนาดใหญ่
ปัจจุบัน Oracle กลายเป็นบริษัทไฮบริด ที่มีทั้งเทคโนโลยีเก่าอย่างซอฟต์แวร์ที่ยังทำรายได้อยู่ในสัดส่วน 14 % ของรายได้ทั้งหมด และธุรกิจใหม่ที่สร้างสัดส่วนกว่า 86 % อย่าง Oracle Cloud Infrastructure (OCI) AI Infrastructure เช่น การให้บริการคลาวด์สำหรับการพัฒนา AI การพัฒนา GenAI บนระบบของ Oracle เอง
Oracle โตเพราะอะไร ?
ฐานลูกค้าองค์กรระดับโลก
Oracle มีลูกค้าองค์กรที่ใช้ระบบของบริษัทมา 10–20 ปีขึ้นไป และผูกพันกับระบบภายในอย่างลึกซึ้ง
ต้นทุนการเปลี่ยนย้าย หรือ Switching Cost จึงมีสูงมาก เมื่อองค์กรใช้ Oracle แล้ว เปลี่ยนไปใช้ระบบใหม่อาจต้องยกเครื่องโครงสร้างทั้งหมด
เทคโนโลยีเฉพาะทาง
Oracle ไม่ได้โฟกัสธุรกิจคลาวด์ ไปทางการแข่งขันด้านความเร็วหรือพื้นที่การจัดเก็บ แต่เน้นการให้บริการที่ ปลอดภัย เสถียร และเฉพาะทาง สำหรับอุตสาหกรรมที่ต้องการความมั่นคงสูง เช่น การเงิน, สาธารณสุข และหน่วยงานรัฐ
ระบบ Hybrid Cloud
ลูกค้าองค์กรส่วนใหญ่ยังไม่ได้ย้ายไประบบคลาวด์อย่างเต็มที่ Oracle ตอบโจทย์นี้ด้วย Hybrid Cloud ที่สามารถใช้งานได้กับระบบเดิม ช่วยให้องค์กรไม่ต้องรื้อระบบเก่า ประหยัดงบ และลดความเสี่ยงในการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่
Oracle ต้องเจอใครบ้างในสนามแข่งขัน ?
Oracle อาจไม่ได้เป็นที่รู้จักของคนทั่วไปเท่า Microsoft หรือ Amazon แต่ในโลกของธุรกิจคลาวด์และฐานข้อมูลระดับองค์กร พวกเขาต้องเจอกับคู่แข่งตัวเป้งทั้ง AWS ที่เน้นความเร็วและความยืดหยุ่น, Microsoft Azure ที่แข็งแรงในกลุ่มองค์กรที่ใช้ Microsoft อยู่แล้ว และ Google Cloud ที่ชูจุดเด่นด้าน AI และ Big Data
แต่ Oracle มีจุดแข็งเฉพาะตัวที่มั่นคง นั่นคือ ฐานลูกค้าองค์กรดั้งเดิมที่ต้องการความปลอดภัย เสถียรภาพ และระบบที่เข้ากันได้กับโครงสร้างเดิม ซึ่งยังไม่มีใครแทนที่ได้ง่าย ๆ
อนาคตการเติบโตของ Oracle
การเติบโตจาก Cloud Infrastructure
Oracle Cloud Infrastructure หรือ OCI กำลังกลายเป็น “ของจริง” สำหรับองค์กรขนาดใหญ่ที่ต้องการความมั่นคง และเป็นเบื้องหลังของหลาย AI Model Training ซึ่งล่าสุด Oracle เซ็นสัญญาร่วมมือกับ OpenAI และ Cohere
ธุรกิจ AI Infrastructure
Oracle ไม่ได้พัฒนาโมเดลสอนภาษา หรือ LLM เช่น ChatGPT เองโดยตรง แต่เน้นให้บริการโครงสร้างพื้นฐานสำหรับ LLM ซึ่งเป็นตลาดที่กำลังโตเร็วมหาศาล เป็น AI Infra-as-a-Service
การเติบโตของฐานข้อมูลแบบ Autonomous Database
ปกติแล้ว ระบบฐานข้อมูลในองค์กรใหญ่ มักต้องมี Database Administrator คอยดูแลอยู่ตลอด เช่น การจัดการพื้นที่เก็บข้อมูล แก้ปัญหาเวลาระบบล่ม หรืออัปเดตซอฟต์แวร์ แต่ Oracle ได้พัฒนาเทคโนโลยี Autonomous Database ซึ่งใช้ AI เข้ามาทำหน้าที่เหล่านี้แทนแบบอัตโนมัติ จึงช่วยลดต้นทุนของลูกค้า และเพิ่มความยืดหยุ่นขององค์กร
Oracle เติบโตมาเรื่อย ๆ อย่างมั่นคงด้วยลูกค้าองค์กรระดับโลก และสามารถพัฒนาธุรกิจคลาวด์ และ AI Infrastructure ได้อย่างแข็งแรง ราคาหุ้นที่ขึ้น All Time High จึงไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่มาจากพลังที่ซ่อนอยู่มาตลอดเกือบ 40 ปี..
ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน
ผลการดำเนินงานในอดีต/ ผลการเปรียบเทียบ ผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
ข้อมูลนี้จัดทำขึ้นโดยอาศัยแหล่งข้อมูลสาธารณะ ซึ่งพิจารณาแล้วว่ามีความน่าเชื่อถือซึ่งปรากฏขณะจัดทำ ซึ่งอาจเปลี่ยนแปลงได้ในแต่ละขณะเวลา บริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงความเห็นหรือประมาณการต่าง ๆ ที่ปรากฏโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
มูลค่าบริษัท ณ วันที่ 2 กรกฎาคม 2568
ที่มา : simplywall.st
Dime! ครบเครื่องเรื่องการเงิน แอปพลิเคชันที่ทุกคนสามารถเข้าถึงการลงทุนได้อย่างเท่าเทียม
เรารอฟังคำแนะนำจากทุกคนอยู่ ติดต่อเราได้เลยทางแอป Dime! หรือช่องทางโซเชียล Facebook และ LINE
[รู้จักเรา]
Dime! (ไดม์!) แปลว่าเหรียญ 10 เซนต์ (ประมาณ 3 บาท) สื่อถึงความตั้งใจของเราที่จะทำให้การเงินการลงทุน เป็นเรื่องที่คุณเข้าถึงได้ง่ายเหมือนกับเงิน 1 ไดม์