Netflix (NFLX) กำลังกลายเป็น Soft Power ที่แข็งแกร่งระดับโลก
5 มิถุนายน 2568 · อ่าน 3 นาที
🏍️ จากซีรีส์สงครามส่งด่วน ไปจนถึง Squid Game ซีซั่น 3
ในโลกที่ทุกประเทศต่างมี Soft Power เป็นของตัวเอง Netflix กลับทำให้คนทั้งโลกดูสิ่งเดียวกัน และรู้สึกเหมือนกันผ่านหน้าจอ
Netflix (NFLX, NFLX06) ไม่ได้แค่ส่งออกเนื้อหา แต่กำลังส่งออกความรู้สึก ความเข้าใจ ไปจนถึงมุมมองชีวิต จนกลายเป็น Soft Power ที่แทรกซึมผ่านความบันเทิงอย่างแนบเนียนที่สุด
🏰 ในขณะเดียวกัน สิ่งเหล่านี้เองก็ค่อย ๆ กลายเป็น Moat หรือ “คูเมือง” ที่ล้อมรอบธุรกิจของ Netflix ไว้อย่างแข็งแกร่ง
🏰 ในเชิงกลยุทธ์การลงทุน Moat คือสิ่งที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถรักษาความได้เปรียบจากคู่แข่งได้ในระยะยาว เปรียบเสมือนคูเมืองที่ล้อมรอบปราสาท ที่แม้ศัตรูจะพยายามบุก ก็ยากจะข้ามเข้ามาถึงตัวธุรกิจได้ง่ายๆ
ซึ่งสำหรับนักลงทุนแนวเน้นคุณค่า หรือ VI อย่างปู่บัฟเฟตต์ “Moat” ถือเป็นหัวใจสำคัญในการประเมินคุณภาพของกิจการ
🏰 Moat โดยทั่วไปสามารถแบ่งได้เป็น 5 ประเภทหลัก และที่น่าสนใจคือ Netflix เองก็มีครบทุกด้าน
📺 Brand Moat – พลังของแบรนด์
Netflix กลายเป็นคำติดปากของคนทั่วโลก การมีซีรีส์ฮิตต่อเนื่องทำให้แบรนด์ฝังในชีวิตผู้ใช้ แม้มีคู่แข่งมากมาย แต่คนยังเลือกเปิด Netflix เป็นอันดับแรก
💸 Cost Moat – ต้นทุนต่อคนดูต่ำลงเรื่อยๆ
แม้การผลิตซีรีส์จะมีราคาสูง แต่การมีผู้ชมอยู่ทั่วโลก ทำให้ช่วยกระจายต้นทุนได้ดี อีกทั้ง Netflix ยังไม่มีต้นทุนอย่างโรงหนังหรือตัวกลางแบบช่องเคเบิล และยังสามารถสร้างรายได้ใหม่ ๆ ได้จากโฆษณา ช่วยเพิ่มกำไรโดยไม่จำเป็นขึ้นราคา
🤷 Switching Moat – เปลี่ยนใจยาก เพราะรู้จักเราดี
ระบบแนะนำคอนเทนต์ของ Netflix จะยิ่งแม่นยำมากขึ้นตามประวัติการดู ทำให้ผู้ใช้เกิดความผูกพันกับรายการที่ดูค้างไว้ และฟีเจอร์ที่ใช้งานจนชิน จะย้ายไปใช้เจ้าอื่นก็อาจทำให้ไม่สะดวก เพราะต้องเริ่มระบบใหม่หมด
🗣️ Network Effect – ยิ่งคนดูมาก กระแสยิ่งแรง
ซีรีส์ดังจาก Netflix มักกลายเป็นบทสนทนา ทั้งในชีวิตจริงและโลกโซเชียล ผู้คนจึงสมัครเพราะกลัวตกกระแส หรืออยากเข้าใจสิ่งที่คนอื่นพูดถึง เมื่อใครๆ ก็พูดถึง Netflix ผู้ใช้รายใหม่ ๆ ก็ยิ่งอยากเข้ามา
🎬 Intangible Asset Moat – สินทรัพย์ที่ลอกเลียนไม่ได้ง่าย ๆ
Netflix สะสมข้อมูลพฤติกรรมการดูทั่วโลกมานานนับสิบปี ทั้งใช้ AI สร้างระบบแนะนำ และร่วมผลิตคอนเทนต์เฉพาะประเทศ ทั้งหมดนี้สร้างสูตรลับที่คู่แข่งไม่มีและยากจะลอกเลียนแบบ
📈 แล้วทั้งหมดนี้สะท้อนอะไรในราคาหุ้น ? ราคาหุ้นของ Netflix ทำราคาสูงสุดเป็นประวัติการณ์ หรือ All Time High ไปเมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2568 ที่ราคา 1,239.66 ดอลลาร์สหรัฐ และราคาหุ้นก็ได้เติบโตจากช่วงต้นปี มาแล้วกว่า 39 %
ทั้ง ๆ ที่ในช่วงปี 2565 หุ้น Netflix เคยถูกมองว่าถึงจุดอิ่มตัวแล้ว แต่ในปี 2566 - 2567 ราคาหุ้น Netflix ก็กลับมาร้อนแรงอีกครั้ง
เพราะนอกจากตัดการแชร์พาสเวิร์ด ลงทุนหนักกับ Original Content และควบคุมต้นทุนการผลิตอย่างจริงจัง จนทำให้รายได้และกำไรเติบโตแล้ว สิ่งที่เกิดขึ้นคือความเข้าใจธุรกิจในสายตานักลงทุนก็เปลี่ยน เพราะคนเริ่มมองว่า Netflix ไม่ใช่แค่บริษัทเทค แต่คือ บริษัทวัฒนธรรม และวัฒนธรรมนั้น ไม่ถูกดิสรัปต์กันได้ง่าย ๆ
🌎 ในปี 2567 Netflix มีรายได้รวมทั้งสิ้น 39,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยมีการกระจายรายได้ตามภูมิภาคดังนี้
สหรัฐอเมริกาและแคนาดา 44 % ของรายได้รวม
ยุโรป ตะวันออกกลาง และแอฟริกา 32 %
ละตินอเมริกา 12 %
เอเชียแปซิฟิก 11 %
จำนวนสมาชิกทั่วโลกล่าสุดในปี 2568 อยู่ที่มากกว่า 300 ล้านคน โดยมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องในทุกภูมิภาค
🎭 เรื่องราวของ Netflix สะท้อนความกล้าเปลี่ยนแปลง และรู้จักลูกค้ามากพอ จนค่อย ๆ หลอมรวมให้ Netflix ไม่ใช่แค่บริษัทเทคโนโลยี หรือบริษัทด้านความบันเทิงเท่านั้น แต่กำลังกลายเป็นโครงสร้างพื้นฐานด้านวัฒนธรรมของโลกยุคใหม่
🎬 จากคนที่เคยเป็น “ผู้ส่ง” Soft Power ให้กับเรื่องราวของประเทศต่าง ๆ
Netflix กลายเป็น Soft Power เสียเอง ที่กำลังทรงพลังมากขึ้นเรื่อย ๆ..
ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน
ผลการดำเนินงานในอดีต/ ผลการเปรียบเทียบ ผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
ข้อมูลนี้จัดทำขึ้นโดยอาศัยแหล่งข้อมูลสาธารณะ ซึ่งพิจารณาแล้วว่ามีความน่าเชื่อถือซึ่งปรากฏขณะจัดทำ ซึ่งอาจเปลี่ยนแปลงได้ในแต่ละขณะเวลา บริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงความเห็นหรือประมาณการต่าง ๆ ที่ปรากฏโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
ราคาหุ้น Netflix ณ วันที่ 4 มิถุนายน 2568
ที่มา : simplywall.st
Dime! ครบเครื่องเรื่องการเงิน แอปพลิเคชันที่ทุกคนสามารถเข้าถึงการลงทุนได้อย่างเท่าเทียม
เรารอฟังคำแนะนำจากทุกคนอยู่ ติดต่อเราได้เลยทางแอป Dime! หรือช่องทางโซเชียล Facebook และ LINE
[รู้จักเรา]
Dime! (ไดม์!) แปลว่าเหรียญ 10 เซนต์ (ประมาณ 3 บาท) สื่อถึงความตั้งใจของเราที่จะทำให้การเงินการลงทุน เป็นเรื่องที่คุณเข้าถึงได้ง่ายเหมือนกับเงิน 1 ไดม์