ฝากเงินบนแอป Dime! คิดดอกเบี้ยอย่างไร ?
8 สิงหาคม 2566 · อ่าน 3 นาที
เพื่อน ๆ หลายคนที่ใช้แอป Dime! น่าจะเคยออมเงินผ่านบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ Dime! Save กัน เพราะได้ดอกเบี้ยสูงสุดถึง 3% ต่อปี จากธนาคารเกียรตินาคินภัทร
💰 แต่หลายคนก็ยังสงสัยว่า ต้องฝากเท่าไรถึงจะได้ดอกเบี้ย 3% และได้รับดอกเบี้ยทุกกี่วัน เรามาดูรายละเอียดอัตราดอกเบี้ยแต่ละช่วงกัน ดังนี้ครับ
- หากมีเงินในบัญชีไม่เกิน 10,000 บาท จะได้รับดอกเบี้ย 3% ต่อปี (A)
- ส่วนที่เกิน 10,000 บาท แต่ไม่เกิน 1,000,000 บาท จะได้รับดอกเบี้ย 1.25% ต่อปี (B)
- ส่วนที่เกิน 1,000,000 บาท จะได้รับดอกเบี้ย 0.50% ต่อปี (C)
*อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย (A) = 3.00% , (B) = 1.27%-3.00% และ (C) = 0.52% -1.27%
*หมายเหตุ การคำนวณดอกเบี้ยจะเป็นแบบขั้นบันได (Step up) โดยธนาคารจะคำนวณ จากยอดเงินคงเหลือ ณ สิ้นวันโดยอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ยขึ้นอยู่กับจำนวนเงินฝากของลูกค้า
💵 ซึ่งธนาคารจะจ่ายดอกเบี้ย 2 ครั้งต่อปี คือวันที่ 30 มิถุนายน และ 31 ธันวาคม
อย่างไรก็ดี บางคนอาจยังไม่ค่อยเห็นภาพ แอดเลยจะมายกตัวอย่างให้ดูว่า เงินฝากแต่ละจำนวน ในเวลาที่แตกต่างกัน จะได้ดอกเบี้ยเป็นจำนวนเท่าไร
ก่อนอื่น เราจะบอกสูตรวิธีการคิดดอกเบี้ย เพื่อที่เพื่อน ๆ จะได้เข้าใจวิธีคำนวณไปด้วยกัน
สูตรคือ ดอกเบี้ย = จำนวนเงินฝาก x อัตราดอกเบี้ย x จำนวนวันที่ฝาก / 365
ดังนั้น หากรวมทั้งเงินฝากและดอกเบี้ย = จำนวนเงินฝาก + [จำนวนเงินฝาก x อัตราดอกเบี้ย x จำนวนวันที่ฝาก / 365]
มาเริ่มที่ตัวอย่างกันเลย
🚩 กรณีที่ 1 เริ่มต้นฝากเงิน 9,000 บาท ในวันที่ 1 มกราคม 2569
ในวันที่ 30 มิถุนายน จากเงิน 9,000 บาท จะกลายเป็น 9,000 + [(9,000 x 3% x 181) / 365] = 9,133.89 บาท
ภายในสิ้นปี เราจะมีเงินทั้งหมด = 9,133.89 + [(9,133.89 x 3% x 184) / 365] = 9,272.02 บาท
จากตัวอย่างจะเห็นได้ว่า ดอกเบี้ยที่ได้รับจาก Dime! Save ไม่ใช่เท่ากับ 9,000 x 3% = 270 บาท เพราะการคิดแบบนั้น เป็นการคิดแบบได้ดอกเบี้ยครั้งเดียวต่อปี ซึ่งไม่ใช่ดอกเบี้ยของ Dime! Save ที่ให้ 2 ครั้งต่อปี
🚩 กรณีที่ 2 เริ่มต้นฝากเงิน 10,000 บาท ในวันที่ 1 มกราคม 2569
ในวันที่ 30 มิถุนายน จากเงิน 10,000 บาท จะกลายเป็น 10,000 + [(10,000 x 3% x 181) / 365] = 10,148.77 บาท
ต่อมาเราจะแบ่งคิดดอกเบี้ยเป็น 2 ส่วน เพราะสิ้นเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา เงินนั้นเกินกว่า 10,000 บาทแล้ว อัตราดอกเบี้ยที่ได้นั้นจะต่างกัน เราเลยแบ่งเงินเป็น 10,000 บาท กับ 148.77 บาท
โดยภายในสิ้นปีจากเงิน 10,000 บาท จะกลายเป็น 10,000 + [(10,000 x 3% x 184) / 365] = 10,151.23 บาท ขณะที่ 148.77 จะกลายเป็น 148.77 + [(148.77 x 1.25% x 184) / 365] = 149.71 บาท
เมื่อรวมกันแล้ว เราจะมีเงินทั้งหมด = 10,151.23 + 149.71 = 10,300.94 บาท
🚩 กรณีที่ 3 เริ่มต้นฝากเงิน 1,010,000 บาท ในวันที่ 1 เมษายน 2569
ในวันที่ 30 มิถุนายน จากเงิน 1,010,000 บาท จะกลายเป็น 1,013,172.53 บาท โดยแบ่งคิดดอกเบี้ยแต่ละขั้นบันไดตามดังนี้
- 10,000 + [(10,000 x 3% x 91) / 365] = 10,074.79 บาท
- 990,000 + [(990,000 x 1.25% x 91) / 365] = 993,085.27 บาท
- 10,000 + [(10,000 x 0.5% x 91) / 365] = 10,012.47 บาท
ต่อมาเราจะคิดดอกเบี้ยแบบแบ่งเป็นส่วนเหมือนเดิม
- 10,000 + [(10,000 x 3% x 184) / 365] = 10,151.23 บาท
- 990,000 + [(990,000 x 1.25% x 184) / 365] = 996,238.36 บาท
- 13,172.53 + [(13,172.53 x 0.5% x 184) / 365] = 13,205.73 บาท
เมื่อรวมกันแล้ว เราจะมีเงินทั้งหมด = 10,151.23 + 996,238.36 + 13,205.73 = 1,019,595.32 บาท
ทั้งหมดนี้เป็นเพียงตัวอย่างบางส่วนเท่านั้น แต่ก็น่าจะพอช่วยให้เพื่อน ๆ เข้าใจหลักการคิดดอกเบี้ยของ Dime! Save ได้ดีขึ้นนะครับ
โดยการเสียภาษีจะเกิดขึ้นเมื่อเราได้รับดอกเบี้ยจากบัญชีออมทรัพย์รวมทุกบัญชีจากธนาคารแห่งเดียวกัน และ/หรือธนาคารพาณิชย์อื่นรวมกันเกิน 20,000 บาทในปีภาษีนั้น และจะต้องแจ้งให้ธนาคารทราบ เพื่อธนาคารจะหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย 15% และนำส่งกรมสรรพากรต่อไป
แต่ถ้าหากเราได้ดอกเบี้ยไม่ถึง 20,000 บาท ธนาคารจะไม่มีการหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย
อัตราดอกเบี้ยและเงื่อนไขเป็นไปตามที่ ธนาคารเกียรตินาคินภัทรกำหนด
ผูู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน
หากคุณมีปัญหาในการใช้งาน หรือต้องการเสนอแนะ สามารถติดต่อฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์ โดยส่งข้อความหาเราได้ทางแอป Dime! หรือช่องทางโซเชียล Facebook และ LINE
พวกเรายินดีให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีที่สุดในการใช้แอป Dime! ของทุกคน