สงสัยไหมว่า ทำไมช่วงปีที่ผ่านมาราคาทองถึงขึ้นเอา ๆ ทั้ง ๆ ที่ทองไม่ให้ดอกเบี้ย ถือทองไม่ได้แสดงถึงความเป็นเจ้าของในบริษัท แล้วเราก็ไม่ได้ใช้ทองใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ?

หนึ่งในคำตอบคือ ภูมิรัฐศาสตร์โลก และความไม่แน่นอนที่มากขึ้นเรื่อย ๆ

📊 ล่าสุด สภาทองคำโลก (World Gold Council) เผยผลสำรวจธนาคารกลางจาก 73 ประเทศทั่วโลก
🔸 95% เชื่อว่า ธนาคารกลางทั่วโลกจะเพิ่มทองคำสำรองในช่วง 12 เดือนข้างหน้า
🔸 43% บอกว่า ธนาคารกลางของตัวเองจะซื้อเพิ่มด้วย
🔸 0% บอกว่าจะลดทองคำในทุนสำรอง

แม้แต่สถาบันที่พิมพ์เงินเองได้ยังเลือกเก็บทอง ทำไม ?

👑 ทองเคยเป็นรากฐานของเงินทั้งโลก
ก่อนสงครามโลกครั้งที่ 1 เงินของแต่ละประเทศเคยถูกผูกมูลค่าเข้ากับปริมาณทองคำที่แน่นอนเรียกว่า “มาตราทองคำ” (Gold Standard)
พอเกิดสงครามโลกครั้งที่ 1 ประเทศฝ่ายสัมพันธมิตรต้องแลกทองเป็นเงินดอลลาร์ เพื่อทำการค้าขายกับอเมริกา และเพื่อปกป้องทองของประเทศตนจากสงคราม

💵 บทบาทของทองค่อย ๆ ถูกแทนด้วยเงินดอลลาร์
ในปี 1944 ประเทศมหาอำนาจตะวันตกตั้งระบบ “เบรตตันวูดส์” (Bretton Woods)
→ สกุลเงินทุกประเทศผูกกับดอลลาร์
→ ดอลลาร์ผูกกับทอง (ที่ 35 ดอลลาร์/ออนซ์)

แต่ระบบนี้มีข้อจำกัด..

ถ้าธนาคารกลางต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการลดดอกเบี้ย ทองอาจไหลออกจากประเทศ ทำให้เสถียรภาพการเงินสั่นคลอน
ปี 1971 สหรัฐฯ ภายใต้ประธานาธิบดี ริชาร์ด นิกสัน สั่งยกเลิกการแปลงดอลลาร์เป็นทองคำ ทำให้ Gold Standard สิ้นสุดลง

🏦 ทุกวันนี้ธนาคารกลางมีอะไรอยู่ในทุนสํารอง ?
ทุนสำรองระหว่างประเทศ คือเงินเก็บของประเทศ
ธนาคารกลางใช้เพื่อรักษาเสถียรภาพค่าเงิน และสร้างความเชื่อมั่นให้ตลาดและนักลงทุนต่างชาติ ซึ่งประกอบด้วย
- เงินตราต่างประเทศ (เช่น USD, EUR, JPY)
- ทองคำ
- พันธบัตรรัฐบาลประเทศต่าง ๆ

ยกตัวอย่างเช่น ธนาคารแห่งประเทศไทยมีทองคำมูลค่า 8 แสนล้านบาทเป็นส่วนหนึ่งของทุนสำรองในเดือนพฤษภาคม

💡 ทองกำลังกลับมา..

จากผลสำรวจของสภาทองคำโลก
เหตุผลที่ธนาคารกลางถือทองคำคือ
✅ ทองทำผลงานดีในช่วงวิกฤต
✅ เป็นแหล่งเก็บมูลค่าและต้านเงินเฟ้อ
✅ ไม่มีความเสี่ยงในการผิดนัดชำระ
✅ กระจายความเสี่ยงของทุนสำรอง
✅ ไม่มีความเสี่ยงทางการเมือง
ในโลกที่เต็มไปด้วยความไม่แน่นอน ความขัดแย้ง และความผันผวน
ทองยังถูกมองว่าเป็น “หลักประกันความมั่นคง” ที่จับต้องได้

แล้วคุณล่ะ มีทองในพอร์ตหรือยัง ?

ถ้าคุณอยากมีทองเหมือนธนาคารกลาง
ไม่ต้องมีตู้เซฟ ไม่ต้องส่งไปเก็บที่ลอนดอน
ซื้อทองง่าย ๆ ได้ผ่านแอป Dime! เริ่มต้น 100 บาท เท่านั้น

ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน

มูลค่าเทียบเท่า 100 บาท โดยธุรกรรมทองคำต้องชำระด้วย USD เท่านั้น
ให้บริการโดย บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด KKP Dime เป็นเพียงผู้ให้บริการแพลตฟอร์ม

ที่มา:
https://www.gold.org/goldhub/research/central-bank-gold-reserves-survey-2025
https://www.ft.com/content/cfe1ccc6-5c9e-45bd-9dd3-d6d85e8514c2
https://www.investopedia.com/ask/answers/09/gold-standard.asp
https://app.bot.or.th/BTWS_STAT/statistics/BOTWEBSTAT.aspx?reportID=80&language=TH

---

Dime! ครบเครื่องเรื่องการเงิน แอปพลิเคชันที่ทุกคนสามารถเข้าถึงการลงทุนได้อย่างเท่าเทียม 

เรารอฟังคำแนะนำจากทุกคนอยู่ ติดต่อเราได้เลยทางแอป Dime! หรือช่องทางโซเชียล Facebook และ LINE

[รู้จักเรา]
Dime! (ไดม์!) แปลว่าเหรียญ 10 เซนต์ (ประมาณ 3 บาท) สื่อถึงความตั้งใจของเราที่จะทำให้การเงินการลงทุน เป็นเรื่องที่คุณเข้าถึงได้ง่ายเหมือนกับเงิน 1 ไดม์