💠“ชิป” หรือที่เรียกกันว่า เซมิคอนดักเตอร์ ทำหน้าที่เป็นสมองของเครื่องจักรเกือบทุกชนิดในโลกดิจิทัล ตั้งแต่สมาร์ตโฟน รถยนต์ไฟฟ้า Data Center ไปจนถึง AI

แต่วงจรการผลิตชิปมีความซับซ้อน และไม่ได้มีแค่บริษัทออกแบบอย่าง Nvidia หรือ Apple เท่านั้นที่อยู่ในห่วงโซ่นี้ เบื้องหลังยังมีบริษัทอีกกลุ่มหนึ่งที่เป็นหัวใจสำคัญของการผลิตชิป นั่นคือ “หุ้นชิปต้นน้ำ”

♻️วงจรการผลิตชิป ต้นน้ำ – กลางน้ำ – ปลายน้ำ

เพื่อให้เข้าใจง่าย ลองจินตนาการว่าการสร้างชิปสักหนึ่งแผ่นนั้นเหมือนกับการสร้างตึกระฟ้า
ต้องมี คนออกแบบ เครื่องมือก่อสร้าง วัสดุ และ ผู้ใช้

ในวงจรของอุตสาหกรรมชิป แบ่งเป็น 3 ส่วนหลัก

🥇ต้นน้ำ (Upstream)
ผลิตเครื่องจักรและเทคโนโลยีสำหรับการสร้างชิป เช่น เครื่องยิงแสง, เครื่องกัดเวเฟอร์, เครื่องตรวจสอบคุณภาพ คือกลุ่มที่เราจะพูดถึงในบทความนี้

🥈กลางน้ำ (Midstream)
บริษัทที่ออกแบบชิป เช่น Nvidia, AMD และโรงงานผลิตชิป เช่น TSMC, Intel

🥉ปลายน้ำ (Downstream)
บริษัทที่ใช้ชิปในผลิตภัณฑ์ เช่น Apple, Tesla, Meta

 

✳️หุ้นชิปต้นน้ำเด่น ๆ ในตลาดหุ้นสหรัฐ

🔬ASML Holding (NASDAQ :ASML)

บริษัทจากเนเธอร์แลนด์ที่ผูกขาดเทคโนโลยีเครื่อง EUV Lithography ซึ่งเป็นหัวใจของการผลิตชิประดับ 3 นาโนเมตรและเล็กกว่า ASML คือบริษัทเดียวในโลกที่ “ขาดไม่ได้” หากใครต้องการผลิตชิประดับล้ำที่สุดในยุค A

ไม่มีคู่แข่งทางตรง ลูกค้าหลักคือโรงงานผลิตชิป อย่าง TSMC, Intel และ Samsung

เครื่อง 1 ตัว มีราคาหลายพันล้านบาท รายได้เติบโตตามการลงทุนของโรงงานผลิตชิประดับสูง อัตรากำไรขั้นต้น 50%

⚙️Applied Materials (NASDAQ : AMAT)

ยักษ์ใหญ่จากสหรัฐฯ ที่ผลิตเครื่องจักรสำหรับหลายขั้นตอนในโรงงานชิป เช่น การเคลือบฟิล์ม (Deposition) และการกัดเวเฟอร์ (Etching) นับว่าเป็นบริษัทที่ครบเครื่องในกลุ่มต้นน้ำ

ลูกค้าครอบคลุมทุกโรงงานใหญ่ ทั้ง TSMC, Samsung และ Micron

มีรายได้จากบริการซ่อมบำรุงและวัสดุอุปกรณ์ และมีธุรกิจรองในฝั่งจอภาพและวัสดุนาโน อัตรากำไรขั้นต้น 48 %

⭐Lam Research (NASDAQ : LRCX)

อีกหนึ่งบริษัทสหรัฐฯ ที่เชี่ยวชาญด้าน การกัดลายเวเฟอร์ (Etching) และ การทำความสะอาดเวเฟอร์ (Cleaning) สำคัญอย่างมากกับการผลิตส่วนประกอบในวงจรดิจิทัล ทั้ง NAND, DRAM และชิป Logic และมีส่วนสำคัญในการทำให้ “ลวดลายชิปเล็กลง” และแม่นยำมากขึ้นเรื่อย ๆ

รายได้ต่อเครื่องสูง และยังมีรายได้ต่อเนื่องจากบริการหลังการขาย

ได้อานิสงส์จากแนวโน้มการเพิ่มจำนวน Layer ของ NAND (เช่น 3D NAND) อัตรากำไรขั้นต้น 48%

💠 KLA Corporation (KLAC)

บริษัทจากสหรัฐฯ ที่โฟกัสเรื่องคุณภาพของแผ่นเวเฟอร์ โดยใช้เครื่องวัดและตรวจสอบความผิดพลาดในระดับนาโน คือบริษัทที่ทำให้ “ชิปไม่พัง” ก่อนถึงมือผู้ใช้งาน

เครื่อง Metrology และ Inspection เป็นเหมือนด่านควบคุมคุณภาพด่านสุดท้ายก่อนนำชิปไปใช้

ลูกค้าต้องพึ่งพาความแม่นยำสูง หากตรวจผิดแค่จุดเดียว อาจเสียชิปทั้งแผ่น อัตรากำไรขั้นต้น 60%

❇️ทำไมหุ้นชิปต้นน้ำถึงน่าสนใจ ?

✅ในยุคที่ AI คือทอง กลุ่มชิปต้นน้ำเป็นผู้ขาย “เครื่องมือผลิตทองคำ”
✅ มีปราการทางธุรกิจสูง เทคโนโลยีเฉพาะทาง คู่แข่งน้อย
✅ รายได้โตตามการลงทุนในโรงงานทั่วโลก
✅ อัตรากำไรขั้นต้นสูง และรายได้มีรายได้ต่อเนื่องจากการบริการซ่อมบำรุง

 🚨แต่ก็มีความเสี่ยงหากภาคอุตสาหกรรมชะลอการลงทุน

🦾แต่หากคุณเชื่อว่ายุค AI ยังเพิ่งเริ่มต้น หุ้นชิปต้นน้ำเหล่านี้อาจเป็นหัวใจลับที่เติบโตไปพร้อมกับทุกเทคโนโลยีที่โลกกำลังสร้าง..

ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน

ผลการดำเนินงานในอดีต/ ผลการเปรียบเทียบ ผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต

ข้อมูลนี้จัดทำขึ้นโดยอาศัยแหล่งข้อมูลสาธารณะ ซึ่งพิจารณาแล้วว่ามีความน่าเชื่อถือซึ่งปรากฏขณะจัดทำ ซึ่งอาจเปลี่ยนแปลงได้ในแต่ละขณะเวลา บริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงความเห็นหรือประมาณการต่าง ๆ ที่ปรากฏโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

มูลค่าบริษัท ณ วันที่ 17 กรกฎาคม 2568
ที่มา : simplywall.st

 

---

Dime! ครบเครื่องเรื่องการเงิน แอปพลิเคชันที่ทุกคนสามารถเข้าถึงการลงทุนได้อย่างเท่าเทียม 

เรารอฟังคำแนะนำจากทุกคนอยู่ ติดต่อเราได้เลยทางแอป Dime! หรือช่องทางโซเชียล Facebook และ LINE

[รู้จักเรา]
Dime! (ไดม์!) แปลว่าเหรียญ 10 เซนต์ (ประมาณ 3 บาท) สื่อถึงความตั้งใจของเราที่จะทำให้การเงินการลงทุน เป็นเรื่องที่คุณเข้าถึงได้ง่ายเหมือนกับเงิน 1 ไดม์