รู้จัก AbbVie (ABBV) หุ้นยา ราคา All Time High
13 มีนาคม 2568 · อ่าน 3 นาที
รู้จัก AbbVie (ABBV) หุ้นยา ราคา All Time High
📈 ราคาหุ้นของ AbbVie (NYSE : ABBV) ทำราคาสูงสุดเป็นประวัติการณ์ หรือ All Time High ไปเมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2568 ที่ผ่านมา ที่ราคา 216.66 ดอลลาร์สหรัฐ และราคาหุ้น ก็ได้เติบโตจากช่วงต้นปี มาแล้วกว่า 18 %
💊 AbbVie เป็นบริษัทยาที่มีมูลค่าบริษัทมากเป็นอันดับ 3 ของโลก มูลค่า 375,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ บริษัทนี้เพิ่งก่อตั้งเมื่อปี 2555 ปัจจุบันมีอายุเพียง 13 ปีเท่านั้น
💊 ผลิตภัณฑ์หลักของบริษัท คือ ยารักษาโรคที่เกี่ยวข้องกับระบบภูมิคุ้มกัน เช่น โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ โรคสะเก็ดเงิน ซึ่งยาในกลุ่มโรคระบบภูมิคุ้มกัน คิดเป็นสัดส่วนราว 47 % ของรายได้บริษัท
Top 3 ผลิตภัณฑ์ที่ขายดีที่สุดของ AbbVie ในปี 2567
1.ยารักษาโรคสะเก็ดเงิน Skyrizi (Rizankizumab) สัดส่วน 21 % ของรายได้ทั้งหมด
2.ยารักษาโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ Humira (Adalimumab) สัดส่วน 16 % ของรายได้
3.สารเสริมความงามและรักษาอาการระบบประสาท Botulinum Toxin สัดส่วน 11 % ของรายได้
ที่มา : investors.abbvie.com, ข้อมูล ณ วันที่ 31 มกราคม 2568
✳️ หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่สร้างการเติบโตของ AbbVie อย่างโดดเด่น ในระยะเวลาเพียง 13 ปี คือ การซื้อกิจการบริษัทยาไบโอเทคโนโลยีอื่น ๆ เพื่อมาเสริมในการต่อยอดวิจัยและพัฒนายาจากโปรตีน โดยตัวอย่างการซื้อกิจการที่โดดเด่น เช่น การซื้อแผนกยามะเร็ง ของบริษัท Pharmacyclics และการซื้อบริษัท Allergan ผู้นำตลาดผลิตภัณฑ์เสริมความงาม
💸 นอกจากการเติบโตที่น่าสนใจแล้ว AbbVie ยังเป็นหุ้นที่จ่ายปันผลในอัตราที่น่าสนใจ โดยอัตราปันผล ณ วันที่ 12 มีนาคม 2568 อยู่ที่ 3.09 % ต่อปี โดยจ่ายปันผลปีละ 4 ครั้ง ขึ้น XD ทุกเดือนมกราคม เมษายน กรกฎาคม และตุลาคม
🚨 อัปเดตล่าสุด จากข้อมูล Clinical Development Pipeline ของบริษัท AbbVie ณ วันที่ 31 มกราคม 2568
AbbVie มียาอีก 2 ตัว ที่ได้รับการอนุมัติจากองค์การอาหารและยา หรือ FDA ของสหรัฐอเมริกาแล้ว
1️⃣ ยาตัวแรก คือ ยา Rinvoq (ชื่อสามัญ Upadacitinib) ซึ่งเป็นยาที่สร้างยอดขาย เป็นอันดับ 4 ของบริษัทอยู่แล้ว ข้อบ่งใช้หลัก คือการรักษาโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์
แต่ได้รับอนุมัติภายใต้ข้อบ่งใช้ใหม่ สำหรับใช้ในการรักษาอาการหลอดเลือดแดงใหญ่อักเสบ หรือโรค Giant Cell Arteritis
โรคหลอดเลือดแดงใหญ่อักเสบ ก็มีสาเหตุเกี่ยวข้องกับระบบภูมิคุ้มกัน ที่สารจากระบบภูมิคุ้มกันก่อให้เกิดการอักเสบที่หลอดเลือดขนาดใหญ่ โดยเฉพาะหลอดเลือดบริเวณหัวและคอ ทำให้เกิดอาการปวดขมับ ปวดหัวอย่างรุนแรง อาการไข้ เห็นภาพซ้อน ไปจนถึงการเปิดปากลำบาก
2️⃣ ยาอีกตัวหนึ่งคือยา Teliso-V (ชื่อสามัญ Telisotuzumab Vedotin) เป็นยาที่ทำงานโดยมีการนำส่งยาไปยังเซลล์มะเร็งโดยตรง โดยมุ่งเป้าไปที่โปรตีนที่เรียกว่า c-Met ซึ่งมักพบในเซลล์มะเร็งปอดบางชนิด
ได้รับการอนุมัติจาก FDA ให้ใช้ในการรักษาผู้ป่วยมะเร็งปอด ชนิด Non-small Cell Lung Cancer (NSCLC)
✳️ นอกจากยา 2 ชนิด ที่ได้รับอนุมัติจาก FDA แล้ว ล่าสุด วันที่ 3 มีนาคม2568 AbbVie ยังได้การเข้าซื้อสิทธิ์ในการวิจัยและพัฒนายาลดน้ำหนัก จากบริษัทยาเดนมาร์ก
โดย AbbVie ได้วางแผนใช้จ่ายเงิน 2,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อได้สิทธิ์ในการวิจัยและพัฒนายาฉีดลดน้ำหนักออกฤทธิ์ยาว "GUB014295" จาก Gubra บริษัทเภสัชกรรมจากประเทศเดนมาร์ก แสดงให้เห็นว่า บริษัทมีความสนใจในตลาดยารักษาโรคอ้วนที่กำลังแข่งขันกันอย่างดุเดือด โดยมีจ่ายเงินล่วงหน้า 350 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และมีโอกาสจ่ายเพิ่มตามความสำเร็จของยา
🧐 ก็เป็นที่น่าติดตามว่า การได้รับการอนุมัติยาตัวใหม่ และการเข้าสู่การพัฒนายาลดน้ำหนัก จะส่งผลอย่างไรต่อการเติบโตของบริษัทในอนาคต และ AbbVie จะสามารถพิสูจน์ตัวเองว่าคู่ควรกับราคาหุ้นที่ทำราคาสูงสุดเป็นประวัติการณ์ได้หรือไม่..
ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุนผลการดำเนินงานในอดีต/ ผลการเปรียบเทียบ
ผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคตข้อมูลนี้จัดทำขึ้นโดยอาศัยแหล่งข้อมูลสาธารณะ ซึ่งพิจารณาแล้วว่ามีความน่าเชื่อถือซึ่งปรากฏขณะจัดทำ ซึ่งอาจเปลี่ยนแปลงได้ในแต่ละขณะเวลา บริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงความเห็นหรือประมาณการต่าง ๆ ที่ปรากฏโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
ที่มา : investors.abbvie.comมูลค่าบริษัท ณ วันที่ 11 มีนาคม 2568